สรุปผลการประชุมวาระกลุ่มการพัฒนานโยบาย (Policy Development Section: POL)
ในการประชุมคณะประศาสน์การ สมัยที่ ๓๔๐ (การประชุมทางไกลผ่านจอภาพ)
ระหว่างวันที่ ๒-๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๓
๑. บทบาทของ ILO ในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและการนำความเป็นธรรมมาสู่ทุกคน
ที่มา
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ การมีงานทำ สุขภาพอนามัย และการดำรงชีวิตประจำวัน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโดยไม่สามารถควบคุมได้ทำให้เกิดความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐาน ธุรกิจหยุดชะงัก และทำลายตำแหน่งงานและการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งยังก่อให้ปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี สภาพแวดล้อมเสื่อมโทรม ผลิตภาพแรงงานลดลง และบีบบังคับให้เกิดการอพยพแรงงาน อย่างไรก็ตาม มาตรการต่าง ๆ ที่นำมาใช้เพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-๑๙ ส่งผลให้มลพิษทางอากาศและภาวะเรือนกระจกทั่วทั้งโลกลดลงได้ชั่วคราว ดังนั้นจึงเป็นโอกาสที่ทั่วทั้งโลกจะเริ่มกลับมากระทำกิจกรรมทางเศรษฐกิจอีกครั้งหลังการระบาดโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงกิจกรรมทางเศรษฐกิจหรือการเปลี่ยนแปลงวิธีการผลิตเพื่อให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและใช้คาร์บอนต่ำ จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในตลาดแรงงาน คือ (ก) เกิดตำแหน่งงานใหม่ขึ้น (ข) บางตำแหน่งงานสามารถทดแทนได้ด้วยตำแหน่งงานอื่น (ค) บางตำแหน่งงานหายไป และ (ง) หลายตำแหน่งจะมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงาน ซึ่งจำเป็นต้องมีการเตรียมคนให้มีทักษะแรงงานที่พร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงาน เพื่อเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ
ข้อเสนอเพื่อพิจารณา
หลายประเทศรวมถึงองค์กรระหว่างประเทศต่าง ๆ ได้กำหนดนโยบายหรือการดำเนินงานเพื่อสนับสนุนความตกลงปารีส (ข้อตกลงนานาชาติด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ) โดย ILO ได้จัดทำ Guidelines for a just transition towards environmentally sustainable economies and societies for all ขึ้น เพื่อให้ประเทศสมาชิกและองค์กรที่สนใจได้นำไปเป็นแนวปฏิบัติ ขณะเดียวกัน สำนักงานแรงงานระหว่างประเทศก็ได้ดำเนินงานอันเป็นการริเริ่มสีเขียว (Green Initiative) ตามแนวคิดของผู้อำนวยการใหญ่ ILO ดังนี้
– การทำให้เกิดความรู้และความเข้าใจยิ่งขึ้นถึงผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีต่อการมีงานทำ โดยการเผยแพร่งานวิชาการและผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้องมากมาย
– การส่งเสริมและช่วยเหลือให้ประเทศสมาชิกปฏิบัติตาม Guidelines for a just transition towards environmentally sustainable economies and societies for all
– การส่งเสริมสมาชิกทั้งสามฝ่ายของ ILO ให้มีการริเริ่มต่าง ๆ ซึ่งในกิจกรรมนี้ ILO ส่งเสริมอาเซียนให้รับรอง ASEAN Declaration on Promoting Green Jobs for Equity and Inclusive Growth of the ASEAN Community เมื่อวันที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๓
– การสร้างขีดความสามารถให้แก่เจ้าหน้าที่และสมาชิกทั้งสามฝ่ายของ ILO
– การเข้าร่วมในความเป็นหุ้นส่วนเชิงกลยุทธและกระบวนการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศระดับโลก
– การเข้าร่วมทำงานด้านความเป็นกลางทางคาร์บอนกับองค์กรอื่น ๆ ภายใต้สหประชาชาติ
มติที่ประชุม
คณะประศาสน์การรับทราบข้อมูลในเอกสาร GB.340/POL/1 และมอบผู้อำนวยการใหญ่ ILO
(ก) ส่งเสริมการอภิปรายแลกเปลี่ยน ความรู้ และความเข้าใจ ให้มีมากขึ้นในเรื่อง การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกับโลกแห่งการทำงาน โดยให้ความสำคัญกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
(ข) ปฏิบัติตาม ILO Guidelines for a just transition towards environmentally sustainable economies and societies for all ให้มีความก้าวหน้ายิ่งขึ้น โดยให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือรัฐบาล องค์กรลูกจ้าง และองค์กรนายจ้าง ในการกำหนดนโยบายโดยใช้การเจรจาทางสังคม เพื่อให้เกิดข้อผูกพันด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงการใช้ Climate Action for Jobs Initiative
(ค) ส่งเสริมการร่วมทำงานระหว่าง ILO สมาชิกทั้งสามฝ่ายของ ILO และสถาบันระหว่างประเทศต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และประเด็นสิ่งแวดล้อมที่สำคัญ เช่น การแปรสภาพเป็นทะเลทราย การเพิ่มระดับของน้ำทะเล การสูญเสียความหลายหลายทางชีวภาพ ฯลฯ การเปลี่ยนแปลงและการลดการปล่อยมลพิษ ตลอดจน การปฏิบัติตาม Decade of Action เพื่อให้บรรลุวาระแห่งการพัฒนาอย่างยั่งยืน ค.ศ. ๒๐๓๐ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เป้าหมายที่ ๘ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปแบบอย่างเป็นธรรมสำหรับทุกคน และ
(ง) ดำเนินงานอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ ILO มีความกลางทางคาร์บอน โดยให้สอดคล้องกับเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนของสหประชาชาติ ภายใน พ.ศ. ๒๕๖๓
(จ) รายงานการการปฏิบัติตามที่ได้รับมอบข้างต้นต่อ GB
๒. การต่ออายุพันธกิจเกี่ยวกับการจ้างงานเยาวชน โดยการรับรองแผนติดตามการปฏิบัติด้านการจ้างงานเยาวชน พ.ศ. ๒๕๖๓-๒๕๗๓
ที่มา
ที่ประชุมใหญ่ประจำปีขององค์การแรงงานระหว่างประเทศสมัยที่ ๑๐๑ (พ.ศ. ๒๕๕๕) ได้รับรองข้อมติเรื่อง วิกฤติการมีงานทำของเยาวชน: การเรียกร้องถึงการปฏิบัติ โดยข้อมตินี้มีผลให้สำนักงานแรงงานระหว่างประเทศจัดทำแผนติดตามการปฏิบัติด้านการจ้างงานเยาวชน ระยะ ๗ ปี ขึ้น ซึ่งได้สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๒
ข้อเสนอเพื่อพิจารณา
สำนักงานแรงงานระหว่างประเทศได้ขยายอายุพันธกิจภายใต้ข้อมติดังกล่าว และจัดทำแผนติดตามการปฏิบัติด้านการจ้างงานเยาวชน พ.ศ. ๒๕๖๓-๒๕๗๓ ขึ้น โดยคำนึงเพิ่มเติมถึง ผลกระทบต่าง ๆ จากโควิด-๑๙ ที่มีต่อการศึกษา การฝึกอบรม และการมีงานทำของเยาวชน ซึ่งทำให้เยาวชนจำนวนมากตกเป็นกลุ่มที่ไม่มีงานทำ ไม่ได้รับการศึกษา และไม่ได้รับการอบรม หรือกลุ่มนีท (Not in employment, education, training: NEET) วัตถุประสงค์ของแผนติดตามฯ คือ ส่งเสริมให้เยาวชนที่ประสงค์จะทำงานสามารถเลือกทำงานได้อย่างเสรี โดยงานนั้นเป็นงานที่มีคุณค่า
แผนติดตามการปฏิบัติฉบับนี้ มีองค์ประกอบ ๔ ประการ โดยแต่ละองค์ประกอบจะมีกิจกรรมที่แบ่งออกเป็น ๒ กลุ่ม คือ กลุ่มการพัฒนาและเผยแพร่ความรู้ และกลุ่มการสร้างขีดความสามารถและการให้ความช่วยเหลือทางวิชาการ ดังนี้
(๑) การปฏิบัติแนวขวางโดยวิธีการที่มีคนเป็นศูนย์กลาง มีกิจกรรมกลุ่มการพัฒนาและเผยแพร่ความรู้ เช่น การรวบรวม การประมวลผล และการเผยแพร่ข้อมูลตลาดแรงงานของเยาวชน และการประเมิน ผลกระทบที่เกิดในตลาดแรงงาน เป็นต้น และมีกิจกรรมกลุ่มการสร้างขีดความสามารถและการให้ความช่วยเหลือทางวิชาการ เช่น การบูรณาการข้อมูลและการคาดการณ์แนวโน้มต่าง ๆ เข้าไว้ในการให้ความช่วยเหลือทางวิชาการ การให้ความช่วยเหลือทางวิชาการในการติดตามผลและประเมินการมีงานทำของเยาวชน และกิจกรรมต่าง ๆ ด้านการสร้างขีดความสามารถในระดับประเทศ ภูมิภาค และสากล เป็นต้น
(๒) การเสริมสร้างขีดความสามารถให้แก่เยาวชนทุกคน มีกิจกรรมกลุ่มการพัฒนาและเผยแพร่ความรู้ เช่น การพัฒนาและยกระดับรูปแบบที่พร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงตลอดชีวิตเพื่ออนาคตของงาน การจัดทำเครื่องมือและคู่มือด้านการเรียนรู้ตลอดชีวิต การวิจัยและการกำหนดนโยบายด้านอนาคตของงานสำหรับเยาวชน เป็นต้น และมีกิจกรรมกลุ่มการสร้างขีดความสามารถและการให้ความช่วยเหลือทางวิชาการ เช่น ให้ความช่วยเหลือทางวิชาการเพื่อยกระดับนโยบายการมีงานทำของเยาวชน ที่ส่งเสริมความสามารถในการมีงานทำของเยาวชน สิทธิในการทำงานของเยาวชน (รวมถึง การคุ้มครองสภาพการทำงาน และการป้องกันให้พ้นจากความรุนแรงและการล่วงละเมิด) เป็นต้น
(๓) การสร้างความเข้มแข็งให้กับสถาบันด้านการทำงาน มีกิจกรรมกลุ่มการพัฒนาและเผยแพร่ความรู้ เช่น การสร้างเครื่องมือต่าง ๆ เพื่อปรับปรุงการเจรจาทางสังคมให้มีผลลัพธ์ที่ดีสำหรับเยาวชน การส่งเสริมให้เยาวชนมีส่วนรวมในการเจรจาทางสังคมและการร่วมเจรจาต่อรอง การจัดทำแนวปฏิบัติที่ดีด้านสิทธิในการทำงานของเยาวชนที่สอดคล้องกับมาตรฐานแรงงานระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น และมีกิจกรรมกลุ่มการสร้างขีดความสามารถและการให้ความช่วยเหลือทางวิชาการ เช่น การช่วยเหลือด้านการตรวจติดตามและจัดทำรายงานด้านสิทธิในการทำงานของเยาวชน ด้านการสร้างรูปแบบอบรมให้กับผู้ทำงานกับเยาวชน
(๔) การส่งเสริมความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน การจ้างงานที่มีผลิตภาพโดยสมบูรณ์ และงานที่มีคุณค่า มีกิจกรรมกลุ่มการพัฒนาและเผยแพร่ความรู้ เช่น การวิจัยถึงผลกระทบของนโยบายเศรษฐกิจ มหภาคที่มีต่อการสร้างตำแหน่งงานสำหรับเยาวชนในช่วงเกิดการระบาดของโควิด-๑๙ และช่วงหลังการระบาด การสำรวจ รวบรวม วิเคราะห์ และรายงานผลเกี่ยวกับนโยบายแห่งชาติด้านการมีงานทำของเยาวชน ในช่วงเกิดการระบาดของโควิด-๑๙ และหลังช่วงการระบาด เป็นต้น และมีกิจกรรมกลุ่มการสร้างขีดความสามารถและการให้ความช่วยเหลือทางวิชาการ เช่น การให้ความช่วยเหลือในการปฏิบัติตามนโยบายและกลยุทธแห่งชาติด้านการมีงานทำของเยาวชน รวมถึง การพัฒนาสหกรณ์ การประกอบกิจการส่วนตัว และการเป็นเจ้าของกิจการ สำหรับเยาวชน เป็นต้น
องค์ประกอบทั้ง ๔ ประการข้างต้นมีกลุ่มกิจกรรมที่ต้องทำเช่นเดียวกันทุกองค์ประกอบ คือ กิจกรรมด้านความเป็นหุ้นส่วนและการให้คำปรึกษา
มติที่ประชุม
คณะประศาสน์การ
(ก) รับรองการต่ออายุแผนติดตามการปฏิบัติด้านการจ้างงานเยาวชน พ.ศ. ๒๕๖๓-๒๕๗๓ ตามแนวทางในเอกสาร GB.340/POL/2 และให้สำนักงานแรงงานระหว่างประเทศเริ่มการปฏิบัติตามแผนโดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่
(ข) มอบผู้อำนวยการใหญ่ ILO จัดสรรทรัพยากรให้แก่สำนักงานแรงงานระหว่างประเทศในการทำงานด้านการจ้างงานเยาวชนในรอบปีงบประมาณนี้และในอนาคต และจัดหาทรัพยากรนอกงบประมาณสำหรับปฏิบัติตามแผนติดตามการปฏิบัติด้านการจ้างงานเยาวชน พ.ศ. ๒๕๖๓-๒๖๗๓ โดยคำนึงถึงกลยุทธและองค์ประกอบการปฏิบัติ และแนวทางที่ได้จากการประชุมครั้งนี้
๓. กลยุทธความร่วมมือเพื่อการพัฒนาของ ILO
ที่มา
ร่างกลยุทธความร่วมมือเพื่อการพัฒนาของ ILO พ.ศ. ๒๕๖๓-๒๕๖๘ จัดทำขึ้นตามข้อมติและบทสรุปว่าด้วย ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่มีประสิทธิภาพของ ILO เพื่อสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ซึ่งรับรองโดยที่ประชุม ILC สมัยที่ ๑๐๗ (พ.ศ. ๒๕๖๑) โดยสำนักงานแรงงานระหว่างประเทศได้เสนอกรอบ road map และหลักการอันเป็นแนวทาง ๔ ด้าน เพื่อเป็นกรอบในการกำหนดกลยุทธฉบับนี้ ให้ที่ประชุม GB สมัยที่ ๓๓๔ (ตุลาคม-พฤศจิกายน ๒๕๖๑) รับรองแล้ว
ข้อเสนอเพื่อพิจารณา
สำนักงานแรงงานระหว่างประเทศได้จัดทำร่างกลยุทธความร่วมมือเพื่อการพัฒนาของ ILO พ.ศ. ๒๕๖๓-๒๕๖๘ ตาม road map และหลักการอันเป็นแนวทาง ๔ ด้าน โดยคำนึงถึงระยะเวลาที่เหลืออยู่ของการทำให้บรรลุ SDGs การปฏิรูปโครงสร้างของสหประชาชาติ และการระบาดใหญ่ทั่วโลกของโควิด-๑๙ ร่างกลยุทธความร่วมมือฯ แบ่งเนื้อหาออกเป็น ๔ ส่วน ดังนี้
๑. การให้บริการสมาชิกทั้งสามฝ่ายของ ILO
เนื้อหาส่วนนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์ ความต้องการ หรือคำขอใด ๆ ด้านงานที่มีคุณค่าของประเทศสมาชิก บนพื้นฐานของการเจรจาทางสังคม โดยมีวิธีการ คือ
– บูรณาการความร่วมมือเพื่อการพัฒนาเข้าไว้ในแผนงานและงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
– มุ่งให้บริการด้านการพัฒนาขีดความสามารถเชิงสถาบันและเชิงองค์กร โดยการนำกลยุทธของ ILO ด้านการพัฒนาขีดความสามารถเชิงสถาบัน ไปปฏิบัติ
– จัดให้มีบริการด้านตัวอย่าง และเอกสารหลักฐานและข้อมูล ของงานที่ทำ ไม่ว่าจะเป็นการประเมิน ผลกระทบ สถิติ หรืองานวิจัย เพื่อสนับสนุนสมาชิกทั้งสามฝ่ายให้ดำเนินงานอย่างมีความคืบหน้าเพื่อบรรลุผลตาม SDGs และให้ได้มาซึ่งงานที่มีคุณค่า
– พัฒนาและให้บริการแก่สมาชิกทั้งสามฝ่ายในเรื่อง การจัดหาแหล่งทุนที่จำเป็นต่อการได้มาซึ่งงานที่มีคุณค่า
– ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศในกลุ่มของประเทศกำลังพัฒนาหรือด้อยพัฒนา และความร่วมมือระหว่างประเทศในกลุ่มของประเทศกำลังพัฒนาหรือด้อยพัฒนากับประเทศที่พัฒนาแล้ว
๒. ความเป็นหุ้นส่วนเพื่อความยึดโยงทางนโยบายที่ไปในทิศทางเดียวกัน
เนื้อหาด้านนี้กำหนดขึ้นโดยคำนึงถึงความจำเป็นในการรับมือกับการระบาดใหญ่ทั่วโลก การนำกลับมาซึ่งสิ่งที่ดีกว่าเดิม และการเร่งให้บรรลุผลตาม SDGs โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมงานที่มีคุณค่า และมีการปฏิบัติตามนโยบายในด้านต่าง ๆ ที่ต่อเนื่องกันโดยไม่ขาดช่วงและไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งใช้วิธีการ ดังนี้
– ส่งเสริมให้มีการจัดลำดับความสำคัญของงานที่มีคุณค่าภายในประเทศ
– ช่วยอำนวยความสะดวกให้นโยบายของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องด้านการพัฒนา มีความยึดโยงและไปในทิศทางเดียวกัน
– ยกระดับความสำคัญของการจัดหาแหล่งทุน โดยใช้การยึดโยงด้านนโยบายที่ไปในทิศทางเดียวกัน
– สร้างความเป็นหุ้นส่วนของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลากหลายฝ่าย เพื่อให้เกิดการยึดโยงด้านนโยบายที่ไปในทิศทางเดียวกัน
– เข้าไปมีส่วนร่วมกับภาคเอกชน เพื่อให้เกิดการยึดโยงด้านนโยบายที่ไปในทิศทางเดียวกัน
๓. ความเป็นหุ้นส่วนด้านการจัดหาเงินทุน
เนื้อหาด้านนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหาความเป็นหุ้นส่วนด้านการจัดหาเงินทุนระยะยาวจากแหล่งทุนต่าง ๆ ที่หลากหลายมากขึ้น โดยมีวิธีการ คือ
– ระดมทรัพยากรต่าง ๆ ให้เพียงพอต่อการดำเนินแผนงานของ ILO
– กระตุ้นให้เกิดการจ่ายเงินสมทบแบบไม่กำหนดวัตถุประสงค์การใช้งาน
– จัดสรรการใช้เงินสมทบในส่วนที่รายได้ของ ILO มาใช้ประโยชน์ในการดำเนินงานด้านงานที่มีคุณค่า
– ขยายขอบเขตของแหล่งทุนและหุ้นส่วนด้านการจัดหาเงินทุน โดยการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับหุ้นส่วนด้านเงินทุนในระดับประเทศ รักษาหุ้นส่วนด้านแหล่งทุนแบบพหุภาคีที่มีอยู่ และแสวงหาแหล่งทุนพหุภาคีใหม่ ๆ เพิ่มเติม เข้าไปมีส่วนร่วมมากขึ้นในการจัดหาเงินทุนของสหประชาชาติ เพิ่มการจ่ายเงินสมทบของภาคเอกชน และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับสถาบันการเงินระหว่างประเทศต่าง ๆ และสถาบันการเงินเพื่อ การพัฒนาอื่น ๆ
๔. ความมีประสิทธิภาพ ผลลัพธ์ด้านงานที่มีคุณค่า และความโปร่งใส
เนื้อหาด้านนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงคุณภาพความร่วมมือด้านการพัฒนาของ ILO ให้มีประสิทธิภาพ นำมาซึ่งผลลัพธ์ด้านงานที่มีคุณค่าตามที่ตั้งเป้าไว้ และสามารถแสดงให้เห็นถึงความคุ้มค่าของงบประมาณที่ได้ใช้ไป โดยมีวิธีการ คือ ปรับปรุงการบริหารมุ่งผลสัมฤทธิ์อย่างต่อเนื่อง ปรับปรุงการให้บริการของสำนักงานแรงงานระหว่างประเทศในประเทศสมาชิก เรียนรู้จากประสบการณ์ และปฏิบัติงานให้ตรงตามมาตรฐานความรับผิดชอบต่าง ๆ
มติที่ประชุม
คณะประศาสน์การ
(ก) รับรองร่างกลยุทธความร่วมมือเพื่อการพัฒนา พ.ศ. ๒๕๖๓-๒๕๖๘ ตามที่เสนอ
(ข) มอบผู้อำนวยการใหญ่ ILO คำนึงถึงแนวทางที่ให้ไว้ในการนำกลยุทธนี้ไปปฏิบัติ
(ค) มอบสำนักงานแรงงานระหว่างประเทศเสนอแผนการปฏิบัติตามกลยุทธ เพื่อให้ที่ประชุม GB สมัยที่ ๓๔๑ (เดือนมีนาคม ๒๕๖๔) ได้พิจารณาและรับรอง และทบทวนกลยุทธและแผนการปฏิบัติตามกลยุทธรอบกลางเทอม ใน พ.ศ. ๒๕๖๖
———————————————
ฝ่ายแรงงาน
คณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา