Skip to main content

หน้าหลัก

อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) เป็นวิทยากรในงานสัมมนาประจำปีของสมาคมหอการค้า Amfori ณ ประเทศเนเธอร์แลนด์

 ๑. วันที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๕๖๑ เวลา ๑๕.๐๐-๑๕.๓๐ น. คุณชุลีรัตน์ ทองทิพย์ อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) คณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวาได้ร่วมเป็นวิทยากรในหัวข้อ “การโยกย้ายระดับโลก : การโยกย้ายถิ่นฐานและความรับผิดชอบในการคุ้มครองคนงาน (A Global Movement : Migration and the Responsibility to Protect Workers)” ความยาว ๓๐ นาที จัดที่ Passenger Amsterdam เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยมีวิทยากร ๔ คน ดังนี้ 

           – Mr. Bernado Cruza, Head of CSR and Value Chain, EI Corte Ingles
           – Dr. Emre Erwn korkmaz, Research Fellow, Oxford University
           – Ms. Chuleerat Thongtip, Minister Counsellor (Labour) Permanent Mission of Thailand in Geneva
           – Mr. Martin Wyss, Chief of Mission, International Organization for Migration (IOM) 
           โดย Ms. Naga Munchetty, Journalist and broadcaster BBC London เป็นผู้ดำเนินการสัมมนา

การสัมมนาประจำปีของสมาคมหอการค้า Amfori จัดขึ้นในชื่อ Unleash Opportunity ผู้เข้าร่วมการสัมมนาประมาณ ๓๘๐ คนจาก ๒๕ ประเทศทั่วโลกที่เป็นสมาชิก Amfori

๒. ผู้จัดกำหนดกรอบการนำเสนอ โดยไทยนำเสนอในฐานะผู้แทนจากภาครัฐและเป็นประเทศที่มีประสบการณ์ในการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวและการคุ้มครองแรงงาน โดยมีสาระสำคัญคือ
           – ขอบคุณสมาคมหอการค้า Amfori ที่ให้โอกาสรัฐบาลไทยได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการบริหารจัดการเกี่ยวกับการโยกย้ายถิ่นฐานจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งการโยกย้ายถิ่นฐานระหว่างประเทศเกิดขึ้นในประเทศไทยมานานนับศตวรรษ และในช่วงราวสามสิบปีที่ผ่านมามีแรงงานโยกย้ายถิ่นฐานเข้ามาทำงานในประเทศไทยจำนวนมากจากประเทศเพื่อนบ้าน ๓ ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา ลาว และเมียนมา ทั้งนี้รัฐบาลไทยได้มีการปรึกษาหารือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) เกี่ยวกับการส่งเสริมแนวปฏิบัติที่รับผิดชอบของภาคธุรกิจในห่วงโซ่อุปทานโลก นอกจากนี้เมื่อวันที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๖๑ ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ได้จดทะเบียนให้สัตยาบันพิธีสาร ค.ศ. ๒๐๑๔ ส่วนเสริมอนุสัญญาว่าด้วยแรงงานบังคับ ค.ศ. ๑๙๓๐ ของ ILO อันแสดงถึงเจตนารมณ์ทางการเมืองและความจริงใจของรัฐบาลไทยที่จะร่วมมือกับประชาคมโลกในการป้องกัน แก้ไข และขจัดการใช้แรงงานบังคับและการค้ามนุษย์ให้สำเร็จ

           – ประเด็นการดำเนินการในการบริหารจัดการแรงงานโยกย้ายถิ่นฐานเพื่อให้การคุ้มครองสิทธิแรงงาน เพื่อแก้ไขปัญหาความเสี่ยงต่อการถูกเอารัดเอาเปรียบของแรงงานโยกย้ายถิ่นฐาน และเพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายและการบริการทางสังคม รัฐบาลไทยได้ทุ่มเทความพยายามอย่างสูงในการเร่งรัดการปรับเปลี่ยนสถานะแรงงานเหล่านี้ให้เป็นแรงงานที่ถูกต้องตามกฎหมายโดยกระบวนการจดทะเบียนและพิสูจน์สัญชาติ เพื่อให้ได้รับการอนุญาตพำนักและทำงานในประเทศไทยเป็นเวลา ๒ ปี เพื่อสนับสนุนให้แรงงานเหล่านี้แสดงตนเพื่อสิทธิประโยชน์และได้รับการยอมรับตามกฎหมาย รัฐบาลได้ปรับปรุงกฎหมายภายในเกี่ยวกับการบริการจัดหางานและการจ้างงานแรงงานต่างด้าวเพื่อการป้องกัน คุ้มครอง และเยียวยาแก่แรงงานเหล่านี้ และเพิ่มบทลงโทษให้หนักขึ้นแก่นายหน้าคนกลางและนายจ้าง นอกจากนี้ได้เพิ่มศักยภาพการตรวจแรงงาน และได้มีการรณรงค์กระตุ้นจิตสำนึกโดยกลไกการเผยแพร่ข้อมูลและข่าวสารแก่นายจ้างและลูกจ้างเพื่อเสริมสร้างความรู้และเพื่อให้หลักประกันต่อความเข้าใจเกี่ยวกับข้อบังคับและสิทธิที่เกี่ยวข้องกับการโยกย้ายถิ่นฐานและแรงงาน

           – ประเด็นความร่วมมือระหว่างประเทศและการให้หลักประกันว่ากลไกการทำงานของรัฐบาลไทยมีความเป็นสากล รัฐบาลไทยให้ความสำคัญและเคารพหลักการสากล และมีการทำงานใกล้ชิดองค์การระหว่างประเทศหลายหน่วยงานทั้งสหภาพยุโรปและ ILO โดยเฉพาะ ILO มีความสัมพันธ์มายาวนานโดยมีข้อได้เปรียบเนื่องจากกรุงเทพฯ เป็นที่ตั้งของสำนักงาน ILO ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกซึ่งเอื้ออำนวยต่อการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดในทุกมิติด้านแรงงาน ที่ผ่านมารัฐบาลได้เพิ่มความเข้มแข็งของกลไกความร่วมมือระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีโครงการร่วมกับสหภาพยุโรปและ ILO ภายใต้โครงการ Combatting Unacceptable Forms of Works in the Thai Fishing and Seafood Industry : Ship to Shore Rights Project และยังจัดทำความร่วมมือระดับทวิภาคีกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อป้องกัน แก้ไข และขจัดการบังคับใช้แรงงานและการค้ามนุษย์

๓. ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสมาคมหอการค้า Amfori 
           – Amfori ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๐ เป็นสมาคมหอการค้าที่มีสมาชิกผู้ค้าปลีกราว ๒,๐๐๐ รายจากกว่า ๔๐ ประเทศทั่วโลก มีมูลค่าเงินหมุนเวียนมากกว่า ๑ ล้านล้านยูโร เป้าหมายองค์กร คือการส่งเสริมความมั่งคั่งของมนุษย์โดยการประกอบธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และสังคม Amfori มีสำนักงานใหญ่ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม 
           – Amfori มีโครงการความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ของไทย ระยะเวลาโครงการ ๑๒ เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนกันยายน ๒๕๖๐ มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาผู้ผลิตในประเทศไทย โดยมีเป้าหมาย ๗๐ ราย ขึ้นมาเป็นผู้นำในการก้าวสู่แนวปฏิบัติในการจัดหางานและความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่มีความรับผิดชอบ เพื่อปรับปรุงชีวิตของคนงานและส่งเสริมชื่อเสียงของไทยในฐานะประเทศผู้ผลิตที่มีความรับผิดชอบ โดยมีกิจกรรมการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการกับผู้ประกอบการไทยที่เข้าร่วมเพื่อมุ่งส่งเสริมวัฒนธรรมการประกอบธุรกิจที่มีความรับผิดชอบในการจัดหางานและกลไกการตรวจสอบของห่วงโซ่การผลิต กระตุ้นจิตสำนึกเกี่ยวกับความรับผิดชอบของบริษัทไทยในการป้องกัน ตรวจสอบ และแก้ไขผลกระทบทางลงด้านสิทธิมนุษยชน และพัฒนาความสัมพันธ์ด้านการค้าระหว่างไทยและตลาดส่งออกของสมาชิก Amfori โดย Amfori ให้ความสำคัญกับการจ้างแรงงานต่างด้าวในอุตสาหกรรมอาหารและอาหารทะเลของไทย 
           – ในการจัดสัมมนาประจำปีของ Amfori ครั้งนี้ได้มอบรางวัลผู้ประกอบการดีเด่นไทย ๓ รายที่มีการปฏิบัติที่ดีและเป็นธรรมในการจ้างแรงงานต่างด้าวจนสามารถเป็นแบบอย่างที่ดีได้ ได้แก่ บริษัทน้ำปลาระยอง บริษัท PK Silver Group Co, Ltd., และบริษัท Seafresh Industry PCL

 

 


9617
TOP