สรุปประเด็นสำคัญของ
ILO Global Summit and the World of Work: Building a better future of Work
ช่วง Global Leaders’ Day
วันที่ ๘ กรกฎาคม ๒๕๖๓
การกล่าวถ้อยแถลงของหัวหน้ารัฐบาลหรือประมุขแห่งรัฐ ผู้นำสหภาพแรงงานและนายจ้างที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ และผู้นำขององค์กรระหว่างประเทศต่าง ๆ เกี่ยวกับประเด็นท้าทายและโอกาสที่เกิดจากการระบาดใหญ่ทั่วโลกในโลกแห่งการทำงาน ตามรายชื่อในเอกสารแนบ โดยมีคำกล่าวที่น่าสนใจ ดังนี้
Mr. Antonio GUTERRES เลขาธิการสหประชาชาติ
โลกแห่งการทำงานเป็นของประชาชน เป็นโลกแห่งศักดิ์ศรี โอกาส และความหวัง ซึ่งถูกโควิด-๑๙ ทำลายลง บางประเทศเข้าสู่สถานการณ์เลวร้ายที่สุดด้านสุขภาพ ในขณะที่บางประเทศกำลังดิ้นรนเอาตัวรอดทางเศรษฐกิจ ซึ่งไม่ว่าโควิด-๑๙ ได้ส่งผลกระทบร้ายแรงเพียงใด เราจะต้องไม่ตกอยู่ในภาวะจำยอมที่ต้องเลือกระหว่างสุขภาพหรือเศรษฐกิจ เรามีอยู่สองทางเลือก คือ จะชนะในทุกด้านหรือจะแพ้หมด กิจกรรมครั้งนี้เป็นโอกาสอันดีที่ฝ่ายรัฐบาล ผู้แทนของนายจ้าง และผู้แทนของลูกจ้าง จะได้ร่วมกันหาหนทางเอาชนะวิกฤต หนทางกระตุ้นเศรษฐกิจและการมีงานทำ และเหนือสิ่งอื่นใด คือ เราต้องมีความสามัคคีและเป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่มีประเทศใดสามารถแก้ไขวิกฤตนี้ได้เพียงลำพัง สหประชาชาติร้องขอการสนับสนุนครั้งใหญ่จากทั่วโลกเพื่อช่วยเหลือประเทศและผู้คนที่เปราะบางที่สุด ปฏิญญาแห่งศตวรรษของ ILO และเป้าหมายเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติในเป้าหมายที่ ๘ ด้านงานที่มีคุณค่าและการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ คือ พื้นฐานที่แข็งแกร่งในการหาหนทางแก้ไขปัญหา
Dr. Tedros Adhanom GHEBREYESUS ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก
คนทุกคนมีสิทธิได้ทำงานที่มีคุณค่าและมีความปลอดภัย WHO ขอเรียกร้องให้ทุกประเทศคุ้มครองอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์และสุขภาพทุกคน ในการนี้ ILO และ WHO ได้ร่วมกันออกคู่มือการคุ้มครองความปลอดภัยในการทำงานของคนทำงานด้านการแพทย์และสุขภาพ WHO ขอเรียกร้องให้รัฐบาล องค์กรของนายจ้าง และองค์กรของลูกจ้าง ในภาคการดูแลรักษาสุขภาพร่วมมือกันพัฒนาแผนงานแห่งชาติที่เข้มแข็งและยั่งยืนด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานสำหรับคนทำงานสายสุขภาพอนามัย พึงระลึกว่า เรามีหน้าที่ต้องร่วมกันคุ้มครองผู้ที่คุ้มครองเรา
นาย มุน เจ-อิน ประธานาธิปดี สาธารณรัฐเกาหลี
ไม่มีประเทศใดสามารถแก้ปัญหาโควิด-๑๙ และฟื้นฟูเศรษฐกิจของตนได้เพียงลำพัง คนกว่า ๒๕ ล้านคนต้องตกงาน การเจรจาทางสังคมและความร่วมมือระหว่างประเทศเป็นสิ่งจำเป็น และ ILO ยังคงมีบทบาทสำคัญในการคุ้มครองสิทธิแรงงานขั้นพื้นฐานและสร้างงานที่มีคุณภาพ โดยรัฐบาลเกาหลี ผู้แทนของคนงาน และผู้แทนของนายจ้าง ได้ร่วมกันรับรองปฏิญญาไตรภาคีเพื่อเอาชนะโควิด-๑๙ และรัฐบาลอยู่ระหว่างการจัดทำโครงการ Korean New Deal เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบเศรษฐกิจดิจิตอลหลังวิกฤตโควิด-๑๙ เกาหลีคำนึงเสมอว่า แรงงานคือรากฐานของสังคม และเกาหลีก็พึ่งพามิตรประเทศในการอยู่รอด ความร่วมมือและความเป็นหนึ่งเดียวกันในการต่อสู่กับโควิด-๑๙ จะทรงพลังขึ้นไปกว่าเดิม ประชาคมโลกต้องทำงานร่วมกันเพื่อลดความไม่เท่าเทียมและเชื่อมความแตกต่าง เราจะผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ก็ต่อเมื่อประชาคมโลกเลือกที่จะไปสู่ความรุ่งเรืองร่วมกันแทนการมุ่งประโยชน์ส่วนตน
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไทย
รัฐบาลไทยมีมาตรการรับมืออย่างเร่งด่วนและมีประสิทธิภาพเพื่อรักษาการจ้างงานและจำกัดผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมให้มีน้อยที่สุด โดยให้ความสำคัญกับการมีงานทำและมีรายได้ที่เหมาะสม ขณะที่แรงงานทุกสัญชาติในประเทศไทยได้รับความคุ้มครองอย่างทั่วถึงตามหลักการของงานที่มีคุณค่า สำหรับแรงงานไทยที่ทำงานอยู่ในต่างประเทศ รัฐบาลได้ให้ความช่วยเหลือในการติดตามสิทธิประโยชน์และ ความคุ้มครองทางสังคม รวมถึงได้พากลับประเทศอย่างปลอดภัย สำหรับแรงงานข้ามชาติในประเทศไทยนั้น รัฐบาลได้มีมาตรการผ่อนปรนให้สามารถทำงานในประเทศได้อย่างถูกกฎหมาย ประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมให้กลับมาดีกว่าเดิม โดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งจะเป็นการพัฒนาอย่างยั่งยืนและไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ซึ่งพวกเราจะต้องช่วยกันเพื่อฝ่าฟันและผ่านพ้นวิกฤตไปให้ได้ เพราะวันนี้เราต้องรอด วันหน้าเราต้องเข้มแข็งกว่าเดิม และก้าวเดินต่อไปโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เพื่อมุ่งสู่การสร้างงานที่มีคุณค่าสำหรับทุกคน
นาง ออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
โควิด-๑๙ จู่โจมทุกคนโดยไม่เลือกปฏิบัติ แต่คนยากจนและกลุ่มผู้ด้อยโอกาสได้รับผลกระทบหนักที่สุด โดยยังไม่มีท่าทีว่าการระบาดจะยุติลงเมื่อใด ดังนั้น เราต้องสร้างสมดุลระหว่างการคุ้มครองสุขภาพอนามัยของคนทำงานกับการอยู่รอดของภาคธุรกิจ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ในวิกฤตนี้ มีคนงานที่ไปทำงานในต่างประเทศโดยไม่ได้รับการคุ้มครองทางสังคม และรอรับความช่วยเหลือจากแผ่นดินแม่ รัฐบาลใช้ความพยายามทุกวิถีทางในการนำตัวคนงานเมียนมาในต่างประเทศกลับมาดูแล ฝึกอาชีพ และสร้างอาชีพใหม่ให้ โดยรัฐบาลมุ่งลงทุนในโครงการก่อสร้างและในภาคการเกษตร ตลอดจน โครงการงานแลกเงิน (Cash for Work) เพื่อพัฒนาชนบท เมียนมาคำนึงถึงหลักการของปฏิญญาแห่งศตวรรษของ ILO และการคุ้มครองสิทธิแรงงาน โดยได้ให้สัตยาบันอนุสัญญาฉบับที่ ๑๓๘ ว่าด้วยอายุขั้นต่ำ และจะดำเนินนโยบายตามเสาหลักการรับมือ ๔ ประการของ ILO คือ (๑) วางแผนบรรเทาทุกข์ทางเศรษฐกิจเนื่องจากโควิด-๑๙ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการมีงานทำ (๒) จัดตั้งคณะกรรมการเยียวยาผลกระทบด้านเศรษฐกิจ เพื่อส่งเสริมภาควิสาหกิจและช่วยเหลือผู้ว่างงาน (๓) เข้มงวดเรื่องการจัดระบบและความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน เพื่อคุ้มครองสุขภาพคนงาน และ (๔) ส่งเสริมระบบไตรภาคีและการเจรจาทางสังคมเพื่อหาหนทางแก้ไขปัญหา
Ms. Kristalina GEORGIEVA กรรมการผู้จัดการ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)
เศรษฐกิจโลกจะหดตัวลงไปอีก และร้อยละ ๙๕ ของประเทศในโลกนี้จะประสบปัญหาเลวร้ายจากการที่รายเฉลี่ยได่ต่อบุคคลลดต่ำลงอย่างมาก กองทุนการเงินระหว่างประเทศมีข้อกังวลเป็นอย่างยิ่งว่า วิกฤตโควิด-๑๙ ในครั้งนี้จะทำลายการพัฒนาที่สำคัญต่าง ๆ ที่มีมาก่อนเกิดการระบาด กองทุนการเงินระหว่างประเทศได้จัดให้ความช่วยเหลือทางการเงินแบบเร่งด่วนแก่ประเทศจำนวน ๗๒ ประเทศ เราตระหนักดีว่า ผู้ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด คือ แรงงานผู้เยาว์ แรงงานหญิง คนงานไร้ทักษะ และผู้อยู่ในภาคนอกระบบ รัฐบาลควรเข้าส่งเสริมการจ้างงาน โดยการอุดหนุนค่าจ้างในระยะสั้น ขยายความช่วยเหลือทางสังคม ขณะนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญที่จะพิจารณาเกี่ยวกับการลงทุนในงานที่ใช้ทักษะฝีมือด้านดิจิตอลและโครงการสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ในอนาคตข้างหน้า พวกเราควรกำหนดนโยบายต่าง ๆ ที่มุ่งให้เกิดการฟื้นคืนกลับมาดั่งเดิมอย่างคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมแบบคาร์บอนต่ำ ซึ่งจะสร้างงานได้หลายล้านตำแหน่ง ทั้งยัง ช่วยแก้ไขปัญหาวิกฤตสภาพภูมิอากาศได้ด้วย และขอเรียกร้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทำการนโยบายเพื่อรับมือกับการระบาดใหญ่ทั่วโลกควบคู่ไปกับการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกด้วย ความเป็นหุ้นส่วนที่เข้มแข็งของรัฐบาล องค์การระหว่างประเทศ องค์การนายจ้าง และสหภาพแรงงาน เป็นปัจจัยสำคัญในการฟื้นฟู
Mr. Roberto AZEVÊDO ผู้อำนวยการใหญ่ องค์การการค้าโลก
ในสถานการณ์เช่นนี้ การหันหน้าเข้าหากันเป็นสิ่งจำเป็นกว่าที่เคย โควิด-๑๙ ส่งผลเสียหายต่อตำแหน่งงาน และห่วงโซ่อุปทานต่าง ๆ การปิดด่านข้ามแดนส่งผลต่อราคาสินค้า และกระทบกิจการที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางและการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการขนส่งสินค้า คนประจำเรือจำนวนมากไม่สามารถขึ้นฝั่งได้และติดอยู่บนเรือเดินทะเล อัตราการค้าขายลดลงเป็นประวัติการณ์ การดำเนินนโยบายทางการค้าของแต่ละประเทศมีผลสำคัญต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ประเทศต่าง ๆ ควรวางนโยบายทางการค้าให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันโดยคำนึงถึงนโยบายด้านแรงงานและการลงทุนทางสังคม วิกฤตครั้งนี้เร่งให้งานในอนาคตมาถึงก่อนเวลาที่คาดไว้ เช่น การทำงานทางไกลและการขายของออนไลน์อย่างจริงจังเป็นระบบกว่าที่คาดไว้หลายปี เป็นต้น การเปิดตลาดการค้าอย่างต่อเนื่องมีบทบาทสำคัญยิ่งในการกระตุ้นให้เกิดการฟื้นฟูได้เร็วขึ้น การใช้ ข้อกีดกันทางการค้าระหว่างกันสามารถนำไปสู่การขาดแคลนอาหารและยาได้
Ms. Angela MERKEL นายกรัฐมนตรี สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี
โควิด-๑๙ ส่งผลให้เกิดความยากจน การว่างงาน การไม่มีความมั่นคงในการทำงาน คนทำงานมีความเสี่ยงด้านสุขภาพ เยอรมนีให้ความสำคัญยิ่งกับโลกแห่งการทำงานและให้ความสำคัญกับหุ้นส่วนทางสังคม เราต้องร่วมกันป้องกันไม่ให้โควิด-๑๙ สร้างวิกฤตอื่นขึ้นมาใหม่ การระบาดใหญ่ทั่วโลกทำให้เราตกอยู่ในสถานการณ์ที่เจ็บปวด และทำให้ได้ข้อสรุปว่า เราต้องทำงานร่วมกันในระดับสากล เราต้องการให้องค์การระหว่างประเทศทั้งหลาย เช่น ILO ช่วยคิดค้นแนวปฏิบัติที่ดีในด้านต่าง ๆ ให้กับพวกเรา
Mr. Mikhail MISHUSTIN นายกรัฐมนตรี สหพันธรัฐรัสเซีย
รัสเซียให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับแนวคิดเรื่อง การสร้างอนาคตของงานให้ดีกว่าเดิมตามหลักการของปฏิญญาแห่งศตวรรษของ ILO ในทางปฏิบัติแล้ว รัสเซียได้เพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีว่างงาน ขยายคุณสมบัติผู้มีสิทธิได้รับสิทธิประโยชน์ทางสังคม จ่ายเงินช่วยเหลือบุตรแก่ผู้ที่ถูกเลิกจ้าง ลดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้กับภาคธุรกิจ ขยายเวลาการเสียภาษี การจ่ายเงินสมทบการประกันสังคม และการชำระเงินกู้ ทั้งยังได้วางแผนชาติในการปรับโครงสร้างระยะยาวเพื่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและการฟื้นฟูรายได้ รัสเซียยังร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับกลุ่มประเทศต้นทางเพื่อช่วยเหลือแรงงานต่างด้าวที่อยู่ในรัสเซีย ประธานาธิบดีวราดิเมียร์ ปูติน ได้กล่าวต่อที่ประชุมกลุ่ม G20 ว่า ต้องให้ความสำคัญอันดับแรกกับการแก้ไขปัญหาการว่างงาน เราต้องร่วมมือกันเปิดเศรษฐกิจโลกอย่างทั่วถึง ต้องละทิ้งมาตรการป้องกันทางการค้า เทคโนโลยีดิจิตอลต้องถูกนำมาใช้ให้แพร่หลาย และมีมาตรการผ่อนคลายเรื่องการเคลื่อนย้ายแรงงาน
Mr. Erol KIRESEPI ประธานองค์การนายจ้างระหว่างประเทศ (IOE)
โควิด-๑๙ ส่งผลให้การพัฒนาที่ยั่งยืนหยุดชะงัก ภาคธุรกิจขาดรายได้ทำให้ต้องเลิกจ้างลูกจ้าง การร่วมทำงานระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนมีความสำคัญยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา การสร้างงานจะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าภาคธุรกิจไม่สามารถอยู่รอด อนาคตของงานที่ดีกว่าเดิมสำหรับนายจ้างแล้วก็คือ การเป็นภาคธุรกิจสามารถจ้างคนงานได้อย่างมั่นคง รัฐบาลต้องเร่งกำหนดนโยบายที่มีนวัตกรรมสามารถตอบโจทย์ของปัญหาได้ การเจรจาทางสังคมมีบทบาทสำคัญที่ทำให้มั่นใจถึงการได้กลับมาทำงานอย่างปลอดภัย ประเทศกำลังพัฒนาทางเศรษฐกิจต้องปรับปรุงระบบความคุ้มครองทางสังคม โดยให้ครอบคลุมคนงานในภาคเศรษฐกิจนอกระบบ และลงทุนในการพัฒนาฝีมือแรงงานและการเรียนรู้ตลอดชีวิตเพื่อรองรับอนาคตของงานที่ดีกว่าเดิม อนาคตของงานเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าไม่มีภาควิสาหกิจที่มั่นคง
Ms. Rosa PAVANELLI เลขาธิการ Public Service International (PSI)
หลังวิกฤตโควิด-๑๙ คือ เวลาที่เหมาะสมในการลงทุนกับภาคบริการของรัฐ เป็นที่น่ายินดีว่า การทำงานหนักของบุคลากรทางการแพทย์และสุขภาพได้รับการยอมรับในระดับสากล ทั่วโลกต่างยกให้คนกลุ่มนี้เป็นวีรบุรุษ/วีรสตรี และคาดหวังให้คนกลุ่มนี้ยังคงทำงานต่อไปอย่างแข็งขันภายใต้ภาวะที่ยากลำบากเช่นนี้ แต่นั้นไม่ใช่ความเป็นปึกแผ่น ภาคบริการของรัฐต้องเผชิญกับการขาดแคลนงบประมาณและการแปรรูปเป็นเอกชน โดยที่สังคมยังไม่พร้อมและคนทำงานยังไม่ได้รับการแจ้งเตือน อย่าให้คนกลุ่มนี้เป็นวีรบุรุษ/วีรสตรี แต่ให้นึกถึงเขาในฐานะคนทำงานมืออาชีพที่เสี่ยงภัยเพื่อทุกคน ขอให้นึกถึงการทำงานที่มีคุณค่า ค่าตอบแทนที่เหมาะสม สภาพ การทำงานที่ดี และความมีศักดิ์ศรี ที่คนกลุ่มนี้ควรได้รับ ถึงเวลาแล้วที่ทุกฝ่ายต้องมองภาคบริการของรัฐ ไม่ว่าจะเป็นบริการด้านสาธารณสุข การคมนาคม การไฟฟ้า การประปา หรืออื่น ๆ ในฐานะที่เป็นกลไกหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและเป็นภาคการผลิตที่มีผลิตภาพสำหรับทุกคน ซึ่งเป็นมีส่วนช่วยสร้างการพัฒนาอย่างยั่งยืน การระบาดของโควิด-๑๙ ครั้งนี้ทำให้เห็นแล้วว่า ภาคบริการของรัฐคือกระดูก สันหลังของสังคมในการรับมือกับวิกฤต
Mr. Stephen COTTON เลขาธิการ สหพันธ์แรงงานขนส่งระหว่างประเทศ (ITF)
โควิด-๑๙ ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสมาชิกของ ITF อย่างไม่เคยคาดคิดมาก่อน สมาชิกของเราทั้งพนักงานขับรถขนสินค้าระหว่างประเทศหรือคนประจำเรือต้องประสบปัญหาจากการมาตรการปิดพรมแดนของประเทศต่าง ๆ สมาชิกของเราซึ่งเป็นหนึ่งในเป็นห่วงโซ่การผลิตของโลกต่างทำงานอย่างหนักเพื่อขับเคลื่อนวิสาหกิจข้ามชาติ ถึงแม้จะมีตราสารขององค์การระหว่างประเทศต่าง ๆ ออกมารับรองสิทธิของคนทำงาน แต่รัฐบาลและองค์กรของนายจ้างจำเป็นต้องใช้ความพยายามมากกว่านี้เพื่อให้เกิดการเคารพสิทธิแรงงาน รัฐบาลต้องให้การคุ้มครองเป็นพิเศษแก่แรงงานหญิง แรงงานผู้เยาว์ และแรงงานนอกระบบ ITF ขอเรียกร้องให้รัฐบาลประเทศต่าง ๆ ให้สัตยาบันอนุสัญญาฉบับที่ ๑๙๐ ว่าด้วยความรุนแรงและการล่วงละเมิด ค.ศ. ๒๐๑๙ ทั้งนี้ คนทำงานทั่วโลกต้องการการคุ้มครองจากภาครัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน งานที่มีคุณค่า และการคุ้มครองทางสังคม ITF ขอให้รัฐบาลและภาคธุรกิจให้ความสำคัญกับจัดตั้งกองทุนการคุ้มครองทางสังคม เราต้องให้มีการฟื้นกลับคืนอย่างยั่งยืนและเป็นประชาธิปไตย โดยคำนึงวิกฤตด้านการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลกและการลงทุนในงานสีเขียวด้วย
Mr. Angel GURRÍA เลขาธิการ องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD)
การระบาดของโควิด-๑๙ เป็นวิกฤตทางสุขภาพและเศรษฐกิจ ทำให้ GDP ของประเทศ OECD ตกลงประมาณร้อยละ ๑๕ ในสองไตรมาศแรกของปี ๒๕๖๓ อัตราการว่างงานสูงถึงร้อยละ ๘.๔ ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เราคาดหวังว่า หากไม่มีการระบาดใหญ่รอบที่สองเกิดขึ้น สถานการณ์ในปี ๒๕๖๔ จะกระเตื้องขึ้น มาตราการช่วยเหลือด้านการดำรงชีพที่หลาย ๆ ประเทศใช้กันอยู่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง แต่ก็ต้องทุ่มเทเงินไปเป็นจำนวนมาก ดังนั้น OECD จึงได้จัดทำและเผยแพร่รายงาน OECD Employment Outlook ซึ่งได้ให้แนวทางเกี่ยวกับการวางแผนเพื่อรับมือกับวิกฤต การสร้างงาน การนำคนกลับเข้าทำงานอย่างปลอดภัย และการสนับสนุนกลุ่มผู้เปราะบางที่สุด ได้แก่ ผู้มีรายได้ต่ำ ผู้ที่ทำงานทางการแพทย์และสุขภาพ ผู้ที่ไม่มีรูปแบบมาตรฐานในการทำงาน คนงานนอกระบบ และคนงานผู้เยาว์ ในการนี้ OECD ยินดีร่วมกับทำงานกับ ILO เพื่อให้ได้มาซึ่งนโยบายที่ดีกว่าเดิมสำหรับชีวิตที่ดีกว่าเดิมในโลกแห่งการทำงาน
Mr. Justin TRUDEAU นายกรัฐมนตรี แคนาดา
โควิด-๑๙ ทำให้คนงานจำนวนมากว่างงานและภาคธุรกิจหลายรายไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ จึงเป็นหน้าที่ของรัฐที่ต้องเข้าช่วยเหลือ รัฐบาลแคนาดาได้จัดทำแผนเศรษฐกิจเพื่อรับมือกับวิกฤตครั้งนี้เป็นการเฉพาะ โดยจัดให้มีสิทธิประโยชน์แบบเร่งด่วนแก่คนทำงานที่ไม่มีรายได้ ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่สถานประกอบการที่ไม่มีรายรับเพียงพอจะนำมาจ่ายเป็นค่าจ้าง เราต้องหาโอกาสเป็นผู้กำหนดอนาคตและทำให้แน่ใจว่าไม่มีผู้ใดตกหล่นหรือถูกทิ้งไว้ข้างหลัง งานในวันพรุ่งนี้จะไม่เหมือนกับวันนี้หรือเมื่อวาน เราต้องมุ่งมั่นสร้างการคุ้มครองทางสังคมที่รองรับกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวได้ การระบาดใหญ่ทั่วโลกทำให้รู้ว่า พวกเราพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานโลกมากเพียงใดในการได้มาซึ่งอาหาร อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล สินค้า และบริการที่จำเป็นอื่น ๆ อันเป็นเหตุผลว่า ประเทศต่าง ๆ ต้องร่วมกันทำงานเพื่อแก้ไขผลกระทบจากโควิด-๑๙ ที่มีต่อเศรษฐกิจและมนุษย์ และร่วมกันหาหนทางเพื่อการกลับคืนมาอย่างยั่งยืน
Mr. Richard TRUMKA ประธานสหพันธ์แรงงานอเมริกันและสภาองค์กรอุตสาหกรรม (AFL-CIO)
คนงานในสหรัฐฯ และทั่วโลกต่างต้องเผชิญกับวิกฤตด้านสุขภาพ ด้านเศรษฐกิจ และด้านการเลือกปฏิบัติ ซึ่งรวมถึงการเหยียดเชื้อชาติ เราจะไม่เห็นระบบเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง เว้นแต่คนงานทุกคน โดยเฉพาะ คนงานในกลุ่มเปราะบาง จะมีสุขภาพแข็งแรงและสามารถเข้าถึงระบบสุขภาพที่ดี เราจะไม่สามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจโลกได้ เว้นแต่จะมีประเด็นการยุติการเหยียดเชื้อชาติปรากฏอยู่ในนโยบายทางเศรษฐกิจ เราต้องการให้รัฐบาล สหภาพแรงงาน และภาคธุรกิจ ร่วมกันกำหนดแผนฟื้นฟูที่ส่งเสริมเศรษฐกิจ คุ้มครองคนทำงาน และสร้างตลาดแรงงานสำหรับทุกคนโดยอาศัยการเจรจาทางสังคม เราอยู่เคียงข้างการเคลื่อนไหวอย่างสันติเพื่อ Black Lives Matter และไม่ว่าสถานการณ์ใดก็ตามคนทำงานต้องไม่ถูกบังคับให้เลือกระหว่างการมีงานทำหรือการมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ดังนั้น เราจึงสนับสนุนให้ ILO ยกระดับมาตรฐานแรงงานด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานเข้ามาเป็นหนึ่งในหลักการและสิทธิขั้นพื้นฐานในการทำงาน
Ms. Mari PANGESTU กรรมการผู้จัดการ ธนาคารโลก
วิกฤตโควิด-๑๙ ส่งผลให้อัตราความยากจนอย่างรุนแรง (extreme poverty rate) ที่มีร้อยละ ๘ ในปี ๒๕๖๒ เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ ๙ ในปีนี้ นับเป็นครั้งแรกในรอบสองทศวรรษที่อัตราความยากจนอย่างรุนแรงของโลกเพิ่มมาถึงจุดนี้ วิกฤตทำให้กลุ่มผู้เปราะบางเผชิญความยากลำบากอย่างสาหัส ซึ่งได้แก่กลุ่มในภาคเศรษฐกิจนอกระบบ ซึ่งเป็นแรงงานส่วนใหญ่ของประเทศกำลังพัฒนา และจำนวนมากเป็นผู้หญิง คนกลุ่มนี้ไม่มีงานประจำทำ มีข้อจำกัดในการได้รับความคุ้มครองทางสังคมหรือไม่ได้รับเลย ไม่สามารถเลือกที่จะทำงานจากที่บ้านได้ ต้องดิ้นรนเพื่อให้มีอาหารมาหาเลี้ยงครอบครัว และเข้าไม่ถึงบริการที่จำเป็นของรัฐ ธนาคารโลกได้จัดเตรียมเงินช่วยเหลือกว่า ๑๖๐ พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อช่วยประเทศสมาชิกทั่วโลก สิ่งสำคัญ ๔ ประการที่จะช่วยสร้างอนาคตของงานให้ดีกว่าเดิม คือ ๑. ปรับโครงสร้างและสร้างงานในภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่มีความสามารถจ้างงานได้หลายตำแหน่ง ๒. ส่งเสริมการพัฒนาทักษะฝีมือให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงาน ๓. แก้ไขปัญหาความไม่เท่าเทียมในตลาดแรงงาน และ ๔. สร้างระบบความคุ้มครองทางสังคมที่ครอบคลุมคนทำงานทุกคน
———————————
ฝ่ายแรงงาน คณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา