Skip to main content

หน้าหลัก

ผลการประชุมคณะมนตรีองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน สมัยที่ ๑๑๐ วันที่ ๒๖-๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ ณ สำนักงานองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก

นางสาวอังคณา เตชะโกเมนท์ อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) คณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา เข้าร่วมการประชุมคณะมนตรีองค์การระหว่าง-ประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน สมัยที่ ๑๑๐ (110th Session of the Council of the International Organization for Migration: 110th IOM Council) ระหว่างวันที่ ๒๖-๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ ณ สำนักงานองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก นครเจนีวา

 

คณะผู้แทนรัฐบาลไทยที่เข้าร่วมการประชุม 110th IOM Council ประกอบด้วยผู้แทนจากกระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ สภาความมั่นคงแห่งชาติ และกระทรวงแรงงาน

 

ประธานการประชุมในครั้งนี้ คือ Mr. Morten Jespersen เอกอัครราชทูต คณะผู้แทนถาวรประเทศเดนมาร์กประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา รองประธานคนที่ ๑ คือ Mr. Evan P. Garcia เอกอัครราชทูต คณะผู้แทนถาวรประเทศฟิลิปปินส์ประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา และรองประธานคนที่ ๒ คือ Ms. Socorro Flores Liera เอกอัครราชทูต คณะผู้แทนถาวรประเทศเม็กซิโกประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา

 

ในการประชุมครั้งนี้ Mr. Antonio Vitorino ผู้อำนวยการใหญ่ IOM ได้นำเสนอรายงานประจำปี ๒๕๖๒ เกี่ยวกับ

๑. วิกฤติในการโยกย้ายถิ่นฐานเพื่อลี้ภัยในภาพรวมของรอบปีที่ผ่านมาซึ่งเกิดจากระบบเศรษฐกิจที่ล่มสลาย ภาวะสงคราม และภัยธรรมชาติอันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงบรรยากาศโลก ผู้ลี้ภัยส่วนใหญ่ต้องเผชิญกับความอดอยากและการกระทำรุนแรงในระหว่างการเดินทาง ซึ่ง IOM ต้องมุ่งมั่นในการทำงานมากขึ้น เพื่อให้ข้อตกลงระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐานที่ปลอดภัย เป็นระเบียบ และปกติ (Global Compact for Safe, Orderly and Regular Migration) มีการนำไปปฏิบัติอย่างแพร่หลายและบังเกิดผล 

๒. ภาพรวมขององค์กรในรอบปี ๒๕๖๒ คือ มีประเทศสมาชิก ๑๗๓ ประเทศ มีเจ้าหน้าที่จำนวน ๑๓,๘๔๔ คน มีสำนักงานสาขาในแต่ละภูมิภาคของโลกจำนวน ๔๓๖ แห่ง และมีรายได้จำนวนประมาณ ๒,๐๐๐ พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งได้มาจากเงินบริจาคหรือเงินสนับสนุนโครงการ รายได้จากการรับจัดทำโครงการ และเงินสมทบค่าสมาชิก ซึ่งในปี พ.ศ. ๒๕๖๒ นี้ ประเทศไทย โดยกระทรวงมหาดไทย ได้จ่ายเงินสมทบค่าสมาชิก IOM เป็นจำนวน ๑๖๓,๖๒๗ ฟรังก์สวิส

๓. การปฏิบัติงานสำคัญในปีที่ผ่านมา คือ การเข้าไปดำเนินการเกี่ยวกับ (ก) การผลัดถิ่นเนื่องจากความขัดแย้งในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก เอธิโอเปีย อิรัก ไนจีเรีย โซมาเลีย ซูดานใต้ ซีเรีย และเยเมน (ข) การผลัดถิ่นเนื่องจากความเสื่อมโทรมทางสิ่งแวดล้อมในบาร์ฮามาส อินโดนีเซีย มาลาวี โมซัมบิก แซมเบีย และซิมบับเว (ค) วิกฤติของผู้โยกย้ายถิ่นฐานในลิเบีย และเยเมน และ (ง) สถานการณ์อื่น ๆ ได้แก่ สถานการณ์โรฮีนจาในบังคลาเทศ การลี้ภัยและความยากลำบากภายในภูมิภาคแอฟริกา และการออกนอกประเทศของชาวเวเนซุเอลา    

 

ผู้เข้าร่วมการประชุมจำนวนมากได้กล่าวถ้อยแถลงที่แสดงถึงความกังวลต่อการรังเกียจผู้โยกย้ายถิ่นฐาน (xenophobia) ในประเทศทางผ่านและประเทศปลายทาง จนเป็นเหตุให้ผู้โยกย้ายถิ่นฐานต้องเผชิญกับความรุนแรงและการล่วงละเมิด และขอให้ IOM หาหนทางในการแก้ไขสถานการณ์ ในการนี้ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย (นายปวิณ ชำนิประศาสน์) ได้กล่าวถ้อยแถลงในนามประเทศไทยต่อที่ประชุม โดยมีใจความสำคัญว่า ประเทศไทยมีภารกิจในการดูแลผู้หนีภัยการสู้รบจากประเทศเพื่อนบ้านมานานกว่า ๔๐ ปี ซึ่ง IOM ในฐานะหน่วยงานภาคีได้ให้การสนับสนุนการดำเนินการเป็นอย่างดีเสมอมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโครงการส่งผู้หนีภัยการสู้รบจากเมียนมาไปตั้งถิ่นฐานใหม่ยังประเทศที่สาม และโครงการส่งผู้หนีภัยการสู้รบจากเมียนมากลับมาตุภูมิโดยสมัครใจ ทั้งยังได้แจ้งต่อประชุมฯ ถึงความคืบหน้าของประเทศไทยในการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผู้โยกย้ายถิ่นฐานที่เข้ามาในประเทศไทย อาทิ การให้โอกาสทางการศึกษาแก่ผู้โยกย้ายถิ่นฐานที่เป็นเยาวชน การดำเนินมาตรการและแนวทางแทนการกักตัวเด็กในสถานกักกันคนต่างด้าวเพื่อรอการส่งกลับ การป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ต่อผู้โยกย้ายถิ่นฐาน โดยเฉพาะผู้โยกย้ายถิ่นที่เป็นสตรีซึ่งเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ให้สามารถอาศัยในประเทศไทยเป็นการชั่วคราวได้ การบริหารจัดการการทำงานของแรงงานต่างด้าวจากประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งความพยายามของประเทศไทยในการดำเนินการเพื่อนำข้อตกลงระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐานที่ปลอดภัย เป็นระเบียบ และปกติ (Global Compact for Safe , Orderly and Regular Migration) ไปสู่การปฏิบัติภายในประเทศ

 

หัวข้อการพิจารณาที่สำคัญ ได้แก่ การรับรองแผนงานและประมาณการงบประมาณสำหรับ พ.ศ. ๒๕๖๓ การรับรองให้ผู้อำนวยการใหญ่มีอำนาจแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูงได้ การกำหนดชั่วโมง การทำงานต่อสัปดาห์ของเจ้าหน้าที่ IOM ให้สอดคล้องกับข้อบังคับการทำงานของเจ้าหน้าที่สหประชาติ การเห็นชอบให้มีการตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาเกี่ยวกับการแก้ไขธรรมนูญ IOM ภายในเดือนธันวาคม ๒๕๖๒ การรับรองให้เลบานอนเข้าเป็นสมาชิก IOM และการกำหนดให้มีการประชุม IOM Council สมัยที่ ๑๑๑ ขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๓

 

ในแผนงานประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๓ ของ IOM นั้น มีโครงการในประเทศไทยที่เกี่ยวข้องกับประเด็นแรงงาน คือ

(ก)   โครงการฟื้นฟูผู้รอดจากการค้ามนุษย์ในประเทศไทย (the Recovery of Human Trafficking Survivors in Thailand) เพื่อมีส่วนช่วยในการขจัดแรงงานทาสในรูปแบบใหม่ ร่วมถึง รูปแบบการทำงานที่เกิดขึ้นในกิจการอันเป็นห่วงโซ่อุปทานของโลกด้วย โครงการนี้มุ่งหวังให้ผู้เสียหายแต่ละรายได้รับการฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นในด้านโอกาสการมีงานทำ และการส่งเสริมภาวะจิตสังคมให้กลับเป็นปกติ    

(ข)  โครงการลดความยากจนโดยการพัฒนาทักษะฝีมือเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐานที่ปลอดภัย (Poverty Reduction through Skills Development for Safe Migration) โดยมุ่งหวังให้ผู้โยกย้ายถิ่นฐาน โดยเฉพาะที่เป็นเพศหญิงจากประเทศกัมพูชา ลาว และพม่า ที่เดินทางเข้าประเทศไทย สามารถได้รับการพัฒนาทักษะฝีมือ    เพื่อเพิ่มโอกาสในการมีงานทำ อันจะส่งผลให้ลดความยากจนในประเทศต้นทางลงได้

 

 

 

 

องค์ประกอบคณะผู้แทนไทย

ในการประชุมคณะมนตรีองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน สมัยที่ ๑๑๐

ระหว่างวันที่ ๒๖-๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ ณ สำนักงานองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก นครเจนีวา

 

กระทรวงมหาดไทย

๑. นายปวิณ ชำนิประศาสน์        รองปลัดกระทรวงมหาดไทย

๒. นายชยชัย แสงอินทร์           ผู้อำนวยการกองการต่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย

๓. นายทรงกลด ขาวแจ้ง           นักวิเทศสัมพันธ์ชำนาญการ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย

๔. นายปกครอง ศรีขาว            นักวิเทศสัมพันธ์ปฏิบัติการ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย

กระทรวงการต่างประเทศ

๕. นางสาวชมพูนุช ผาสุพันธ์       นักการทูตชำนาญการ กรมองค์การระหว่างประเทศ

สภาความมั่นคงแห่งชาติ

๖. นางสาวมิรันตี ปุงบางกระดี่     นักวิเคราะห์นโยบายและแผนปฏิบัติการ

กระทรวงแรงงาน

๗. นางสาวอังคณา เตชะโกเมนท์   อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน)

คณะผู้แทนภาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา

TOP