ความเป็นมาของหลักการและสิทธิขั้นพื้นฐานในการทำงานของ ILO
ที่ประชุมสุดยอดด้านการพัฒนาสังคม (World Social Summit) พ.ศ. ๒๕๓๘ มีมติให้ประเทศต่าง ๆ ส่งเสริมการปฏิบัติด้านแรงงานให้สอดคล้องตามมาตรฐานสากล และที่ประชุมระดับรัฐมนตรีองค์การการค้าโลกที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อเดือนธันวาคม ๒๕๓๙ ได้มีมติให้องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (International Labour Organization: ILO) เป็นองค์กรผู้ทรงอำนาจเพียงองค์กรเดียวในการผลักดันการปฏิบัติให้สอดคล้องตามมาตรฐานแรงงาน อันเป็นการย้ำถึงพันธกิจด้านแรงงานของ ILO ที่ต้องดำเนินการโดยเร่งด่วนในการรณรงค์ผลักดันให้ประเทศสมาชิกมีการปฏิบัติตามและให้สัตยาบันอนุสัญญามากขึ้น โดยเฉพาะอนุสัญญาที่เป็นมาตรฐานแรงงานขั้นพื้นฐาน (Fundamental Conventions) ดังนั้น ในการประชุมใหญ่ประจำปีขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (International Labour Conference: ILC) สมัยที่ ๘๖ (พ.ศ. ๒๕๔๑) ที่ประชุมใหญ่จึงได้รับรอง “ปฏิญญาว่าด้วยหลักการและสิทธิขั้นพื้นฐานในการทำงาน” โดยกำหนดให้หลักการและสิทธิขั้นพื้นฐานในการทำงานประกอบด้วยมาตรฐานแรงงาน ๔ ประเด็น แต่ละประเด็นครอบคลุมอนุสัญญาพื้นฐาน ๒ ฉบับ โดยมีแนวคิดว่า อนุสัญญาทั้ง ๘ ฉบับนั้นมีเนื้อหาที่เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานในการทำงานที่คนทำงานทุกคนควรได้รับไม่ว่าจะอยู่ในประเทศที่มีสภาพเศรษฐกิจและสังคมแบบใดก็ตาม ได้แก่
๑. เสรีภาพในการสมาคมและการยอมรับสิทธิในการร่วมเจรจาต่อรอง ประกอบด้วย
อนุสัญญาฉบับที่ 87 ว่าด้วยเสรีภาพในการสมาคมและการคุ้มครองสิทธิในการรวมตัว ค.ศ. 1948
อนุสัญญาฉบับที่ 98 ว่าด้วยสิทธิในการรวมตัวและการร่วมเจรจาต่อรอง ค.ศ. 1949
๒. การขจัดแรงงานบังคับหรือการเกณฑ์แรงงานในทุกรูปแบบ ประกอบด้วย
อนุสัญญาฉบับที่ 29 ว่าด้วยแรงงานบังคับ ค.ศ. 1930
อนุสัญญาฉบับที่ 105 ว่าด้วยการยกเลิกแรงงานบังคับ ค.ศ. 1957
๓. การขจัดการใช้แรงงานเด็กให้เป็นผล ประกอบด้วย
อนุสัญญาฉบับที่ 138 ว่าด้วยอายุขั้นต่ำ ค.ศ. 1973
อนุสัญญาฉบับที่ 182 ว่าด้วยรูปแบบที่เลวร้ายที่สุดของการใช้แรงงานเด็ก ค.ศ. 1999
๔. การขจัดการเลือกปฏิบัติในการจ้างงานและอาชีพ ประกอบด้วย
อนุสัญญาฉบับที่ 100 ว่าด้วยค่าตอบแทนที่เท่ากัน ค.ศ. 1951
อนุสัญญาฉบับที่ 111 ว่าด้วยการเลือกปฏิบัติ (การจ้างงานและอาชีพ) ค.ศ. 1958
เป้าหมายของปฏิญญา
๑. กำหนดพันธกิจให้ประเทศสมาชิกเคารพและปฏิบัติตามสิทธิขั้นพื้นฐานในการทำงานซึ่งถือเป็นสิทธิมนุษยชนด้วย
๒. ยืนยันว่า ILO เป็นองค์กรที่ทรงอำนาจที่รับผิดชอบดำเนินการด้านมาตรฐานแรงงาน
๓. กำหนดให้ ILO ช่วยเหลือประเทศสมาชิกในการปฏิบัติตามหลักการ ตลอดจนให้องค์การระหว่างประเทศอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ ILO มีส่วนในการส่งเสริมหลักการนี้ด้วย
๔. เน้นย้ำว่า ปฏิญญาจะไม่ถูกนำมาใช้เพื่อกีดกันทางการค้า และนำมาตั้งเงื่อนไขเพื่อเปรียบเทียบในเรื่องของความได้เปรียบเสียเปรียบทางการค้า
ความเป็นมาของการเพิ่มประเด็นสภาพการทำงานที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพเข้าเป็นหนึ่งในหลักการและสิทธิขั้นพื้นฐานในการทำงานของ ILO
ที่ประชุม ILC สมัยที่ ๑๐๘ (พ.ศ. ๒๕๖๒) ได้รับรอง
(ก) ปฏิญญาแห่งศตวรรษของ ILO เพื่ออนาคตของงาน (the ILO Centenary Declaration for the Future of Work) เพื่อประกาศกรอบแนวทางการดำเนินการเชิงนโยบายของ ILO ในการมุ่งสู่ศตวรรษที่ ๒ ขององค์กรที่ให้ความสำคัญกับการสร้างอนาคตของงานที่ยุติธรรม ครอบคลุม และมั่นคงยิ่งขึ้น ซึ่งปฏิญญาได้กำหนดประเด็นเกี่ยวกับสุขภาพไว้ว่า เงื่อนไขการทำงานที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ คือ พื้นฐานในการนำไปสู่งานที่มีคุณค่า (ข้อ II วรรค ดี) และขอให้ประเทศสมาชิกทั้งปวงดำเนินงานต่าง ๆ บนพื้นฐานของระบบไตรภาคีและการเจรจาทางสังคม เพื่อให้เกิดการพัฒนาไปสู่อนาคตของงานโดยวิธีที่ยึดคนเป็นศูนย์กลาง โดยให้ความคุ้มครองอย่างเพียงพอแก่คนทำงานทุกคนอย่างสอดคล้องกับวาระงานที่มีคุณค่า (Decent Work Agenda) โดยคำนึงถึงการเคารพต่อสิทธิขั้นพื้นฐานของคนทำงาน ค่าจ้างจ้างขั้นต่ำที่เพียงพอ กรอบกำหนดสูงสุดของเวลาทำงาน และความปลอดภัยและสุขภาพอนามัยในการทำงาน (ข้อ III วรรค บี)
(ข) ข้อมติเรื่อง ปฏิญญาแห่งศตวรรษของ ILO เพื่ออนาคตของงาน ซึ่งเรียกร้องให้ GB พิจารณาโดยเร็วที่สุดถึงข้อเสนอให้เพิ่มประเด็นสภาพการทำงานที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ เข้าไว้ในกรอบงานของ ILO ด้านหลักการและสิทธิขั้นพื้นฐานในการทำงาน
ที่ประชุม GB สมัยที่ ๓๔๑ (เดือนมีนาคม ๒๕๖๔) ได้พิจารณาเสนอแนวทางในการบรรจุประเด็นสภาพการทำงานที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพเพิ่มเข้าไว้ในกรอบงานของ ILO ด้านหลักการและสิทธิขั้นพื้นฐานในการทำงาน โดยได้กำหนดกรอบการพิจารณาในประเด็นสำคัญ ๒ ประการ คือ
- ตราสารที่ควรเป็นอนุสัญญาพื้นฐานด้านสภาพการทำงานที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ ภายใต้หลักการและสิทธิขั้นพื้นฐานในการทำงาน ซึ่งที่ประชุมได้เสนอตราสารจำนวน ๔ ฉบับ ได้แก่
- อนุสัญญาฉบับที่ ๑๕๕ ว่าด้วยความปลอดภัยและสุขภาพอนามัยในการทำงาน ค.ศ. ๑๙๘๑
- พิธีสาร ค.ศ. ๒๐๐๒ ส่วนเสริมอนุสัญญาฉบับที่ ๑๕๕
- อนุสัญญาฉบับที่ ๑๖๑ ว่าด้วยการให้บริการด้านอาชีวอนามัย ค.ศ. ๑๙๘๕
- อนุสัญญาฉบับที่ ๑๘๗ ว่าด้วยกรอบเชิงส่งเสริมการดำเนินงานความปลอดภัยและอาชีวอนามัย ค.ศ. ๒๐๐๖
(ข) วิธีการเพิ่มประเด็นสภาพการทำงานที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ เข้าไว้ในกรอบงานของ ILO ด้านหลักการและสิทธิขั้นพื้นฐานในการทำงาน ซึ่งมีอยู่ ๒ ทางเลือก คือ
๑. การแก้ไขปฏิญญาว่าด้วย หลักการและสิทธิขั้นพื้นฐานในการทำงาน (ปฏิญญาปี ๑๙๙๘) เพื่อบรรจุประเด็นสภาพการทำงานที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ เพิ่มเติมจากประเด็นหลักเดิมที่มีอยู่ ๔ ประการ
หรือ
๒. การรับรองปฏิญญาฉบับใหม่ในประเด็นสภาพการทำงานที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพเป็นการเฉพาะ และมีกลไกการติดตามผล (follow-up mechanism) แยกจากกลไกการติดตามผลของปฏิญญาปี ๑๙๙๘
ที่ประชุม GB สมัยที่ ๓๔๓ (เดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๔) มีมติให้เสนอที่ประชุมใหญ่ ILC สมัยที่ ๑๑๐ (พ.ศ. ๒๕๖๕) พิจารณาเกี่ยวกับการแก้ไขปฏิญญาปี ๑๙๙๘ เพื่อบรรจุประเด็นสภาพการทำงานที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ เพิ่มเติมจากประเด็นหลักเดิมที่มีอยู่ ๔ ประการ โดยประเด็นดังกล่าวควรครอบคลุมอนุสัญญา ๒ ฉบับ คืออนุสัญญาฉบับที่ ๑๕๕ และอนุสัญญาฉบับที่ ๑๘๗
ที่ประชุมใหญ่ ILC สมัยที่ ๑๑๐ (พ.ศ. ๒๕๖๕) รับรองข้อมติเรื่อง การรวมประเด็นสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพเข้าไว้ในกรอบงานของ ILO ด้านหลักการและสิทธิขั้นพื้นฐานในการทำงาน (Resolution on the inclusion of a safe and healthy working environment in the ILO’s framework of fundamental principles and rights at work) ซึ่งมีใจความสำคัญ คือ
- ให้แก้ไขวรรค ๒ ของปฏิญญาปี ๑๙๙๘ เพื่อเพิ่มประเด็น “สภาพแวดล้อมในการทำงานที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ” เข้าเป็นข้อ อี แห่งหลักการและสิทธิขั้นพื้นฐานในการทำงาน และในภาคผนวกของปฏิญญาว่าด้วยความยุติธรรมทางสังคมเพื่อโลกาภิวัตน์ที่เป็นธรรม
- ให้อนุสัญญาฉบับที่ ๑๕๕ ว่าด้วยความปลอดภัยและสุขภาพอนามัยในการทำงาน ค.ศ. ๑๙๘๑ และอนุสัญญาฉบับที่ ๑๘๗ ว่าด้วยกรอบเชิงส่งเสริมการดำเนินงานความปลอดภัยและอาชีวอนามัย ค.ศ. ๒๐๐๖ เป็นอนุสัญญาพื้นฐานภายใต้ปฏิญญาปี ๑๙๙๘
ผลสืบเนื่องสำคัญที่มีต่อประเทศสมาชิกจากการเพิ่มประเด็นสภาพการทำงานที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพเข้าเป็นหนึ่งในหลักการและสิทธิขั้นพื้นฐานในการทำงานของ ILO
การติดตามผลตามภาคผนวกของปฏิญญาปี ๑๙๙๘ (ฉบับแก้ไขปี ๒๐๒๒)
ภายใต้ภาคผนวกของปฏิญญาปี ๑๙๙๘ (ฉบับแก้ไขปี ๒๐๒๒) ประเทศสมาชิกต้องจัดทำรายงานประจำปีเพื่อการติดตามผลเกี่ยวกับอนุสัญญาพื้นฐานตามแบบฟอร์มที่ ILO กำหนด ซึ่งประเทศใดที่ยังไม่ได้ให้สัตยาบันอนุสัญญาฉบับที่ ๑๕๕ หรือฉบับที่ ๑๘๗ มีพันธกิจเพิ่มเติมในการจัดทำรายงานเกี่ยวกับอนุสัญญาฉบับที่ตนยังไม่ได้ให้สัตยาบัน
การให้ความร่วมมือตามกลยุทธและกรอบงานของ ILO
ที่ประชุม GB สมัยที่ ๓๔๗ (เดือนมีนาคม ๒๕๖๖) มีมติรับรองกลยุทธโลก (Global Strategy) ด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานและการส่งเสริมสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพในฐานะที่เป็นหลักการและสิทธิขั้นพื้นฐานในการทำงาน ค.ศ. ๒๐๒๔-๒๐๓๐ ตามที่สำนักงานแรงงานระหว่างประเทศเสนอ โดยกลยุทธดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ให้ทุกฝ่ายตระหนักถึงความสำคัญของสิทธิขั้นพื้นฐานด้านสภาพการทำงานที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ และการมีส่วนช่วยในทุกหนทางเพื่อลดจำนวนการเสียชีวิต การได้รับบาดเจ็บ และการเจ็บป่วย อันเนื่องมาจากการทำงาน โดยมีแผนปฏิบัติงานกับประเทศสมาชิก คือ
- การส่งเสริมการให้สัตยาบันและการนำมาตรฐานแรงงานระหว่างประเทศด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน (Occupational Safety and Health: OSH) มาปฏิบัติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อนุสัญญาฉบับที่ ๑๕๕ ว่าด้วยความปลอดภัยและสุขภาพอนามัยในการทำงาน ค.ศ. ๑๙๘๑ พิธีสาร ค.ศ. ๒๐๐๒ ส่วนเสริมอนุสัญญาฉบับที่ ๑๕๕ และอนุสัญญาฉบับที่ ๑๘๗ ว่าด้วยกรอบเชิงส่งเสริมการดำเนินงานความปลอดภัยและอาชีวอนามัย ค.ศ. ๒๐๐๖
- การพัฒนาและเผยแพร่ความรู้ด้าน OSH
- การส่งเสริม การสร้างความตระหนักรู้ และการให้คำแนะนำ ด้าน OSH
- การสนับสนุนและการให้ความช่วยเหลือทางวิชาการด้าน OSH ให้แก่สมาชิก ILO ทั้งสามฝ่าย
- การจัดทำความร่วมมือพหุภาคี เพื่อทำให้สิทธิขึ้นพื้นฐานด้านสภาพการทำงานที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพเป็นกระแสหลักของโลก และเป็นวาระสำคัญของทุกองค์กรและสถาบัน
นอกจากนั้น ที่ประชุมยังมอบให้ผู้อำนวยการใหญ่ ILO จัดทำร่างกลยุทธโลกด้าน ความปลอดภัยและอาชีวอนามัยในการทำงาน ค.ศ. ๒๐๒๔-๒๐๓๐ และแผนปฏิบัติตามกลยุทธ เพื่อเสนอให้ที่ประชุม GB สมัยที่ ๓๔๙ (เดือนตุลาคม-พฤศจิกายน ๒๕๖๖) พิจารณาต่อไป
การพิจารณาให้สัตยาบันอนุสัญญาฉบับ ๑๙๑ ว่าด้วยสิ่งแวดล้อมในการทำงานที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ (การแก้ไขอันเป็นผลสืบเนื่อง) ค.ศ. ๒๐๒๓
สืบเนื่องจากการแก้ไขปฏิญญาปี ๑๙๙๘ เพื่อเพิ่มประเด็นสภาพการทำงานที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพเข้าเป็นหนึ่งในหลักการและสิทธิขั้นพื้นฐานในการทำงานของ ILO นั้น ส่งผลกระทบต่อเนื้อหาและสาระในตราสารหลายฉบับของ ILO ที่ได้มีการกล่าวถึงหลักการและสิทธิขั้นพื้นฐานใน การทำงานไว้ก่อนแล้ว ดังนั้น ที่ประชุมใหญ่ ILO สมัยที่ ๑๑๑ (พ.ศ. ๒๕๖๖) จึงได้รับรองอนุสัญญาฉบับที่ ๑๙๑ และข้อแนะฉบับที่ ๒๐๗ ว่าด้วยสิ่งแวดล้อมในการทำงานที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ (การแก้ไขอันเป็นผลสืบเนื่อง) ค.ศ. ๒๐๒๓ เพื่อรองรับผลกระทบดังกล่าว โดยอนุสัญญาฉบับที่ ๑๙๑ มีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
- แก้ไขคำว่า “ปฏิญญา ILO ว่าด้วยหลักการและสิทธิขั้นพื้นฐานในการทำงาน และการติดตามผล ค.ศ. ๑๙๙๘” ที่ปรากฏอยู่ในอนุสัญญาฉบับที่ ๑๘๒ ว่าด้วยรูปแบบที่เลวร้ายที่สุดของการใช้แรงงานเด็ก ค.ศ. ๑๙๙๙ อนุสัญญาฉบับที่ ๑๙๓ ว่าด้วยการคุ้มครองความเป็นมารดา ค.ศ. ๒๐๐๐ อนุสัญญาว่าด้วยแรงงานทางทะเล ค.ศ. ๒๐๐๖ ฉบับแก้ไข อนุสัญญาฉบับที่ ๑๘๗ ว่าด้วยกรอบเชิงส่งเสริมการดำเนินงานความปลอดภัยและอาชีวอนามัย ค.ศ. ๒๐๐๖ อนุสัญญาฉบับที่ ๑๘๘ ว่าด้วยการทำงานในภาคประมง ค.ศ. ๒๐๐๗ อนุสัญญาฉบับที่ ๑๘๙ ว่าด้วยคนงานทำงานบ้าน ค.ศ. ๒๐๑๑ และพิธีสาร ค.ศ. ๒๐๑๔ ส่วนเสริมอนุสัญญาฉบับที่ ๒๙ ว่าด้วยแรงงานบังคับ ค.ศ. ๑๙๓๐ เป็นคำว่า “ปฏิญญา ILO ว่าด้วยหลักการและสิทธิขั้นพื้นฐานในการทำงาน (ค.ศ. ๑๙๙๘) ฉบับแก้ไข ค.ศ. ๒๐๒๒”
- เพิ่มคำว่า “อนุสัญญาฉบับที่ ๑๕๕ ว่าด้วยความปลอดภัยและสุขภาพอนามัยในการทำงาน ค.ศ. ๑๙๘๑” และคำว่า “อนุสัญญาฉบับที่ ๑๘๗ ว่าด้วยกรอบเชิงส่งเสริมการดำเนินงานความปลอดภัยและอาชีวอนามัย ค.ศ. ๒๐๐๖” เข้าไว้ในอารัมภบทของอนุสัญญาว่าด้วยแรงงานทางทะเล ค.ศ. ๒๐๐๖ ฉบับแก้ไข อนุสัญญาฉบับที่ ๑๘๘ ว่าด้วยการทำงานในภาคประมง ค.ศ. ๒๐๐๗ และพิธีสาร ค.ศ. ๒๐๑๔ ส่วนเสริมอนุสัญญาฉบับที่ ๒๙ ว่าด้วยแรงงานบังคับ ค.ศ. ๑๙๓๐
- เพิ่มคำว่า “สภาพแวดล้อมในการทำงานที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ” เข้าเป็นย่อหน้าใหม่ในอนุสัญญาว่าด้วยแรงงานทางทะเล ค.ศ. ๒๐๐๖ ฉบับแก้ไข อนุสัญญาฉบับที่ ๑๘๙ ว่าด้วยคนงานทำงานบ้าน ค.ศ. ๒๐๑๑ และอนุสัญญาฉบับที่ ๑๙๐ ว่าด้วยการขจัดความรุนแรงและการคุกคามในโลกแห่งการทำงาน ค.ศ. ๒๐๑๙
——————————————
ฝ่ายแรงงาน
คณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา
กรกฎาคม ๒๕๖๖